ไหนๆ เมืองไทยก็ไม่มีหน้าหนาวแล้ว เราจึงแพลนที่จะไปรับลมแดด พร้อมว่ายน้ำทะเล ที่เกาะไหนซักแห่ง ใกล้ๆ ในเมืองไทย ก่อนจะถึงเมษาหน้าร้อน (ของจริง) ซึ่งถ้าไปแบบง่ายๆ สะดวกสบาย คงหนีไม่พ้นเกาะสมุย สำหรับโรงแรมที่เราอยากจะไปพักร้อนแบบชิลล์ๆ คงเป็นรีสอร์ทหรูแห่งใหม่ล่าสุดบนเกาะ เพื่อจะได้ใช้เวลาให้เต็มที่กับการซึมซับบรรยากาศ และงานดีไซน์ใหม่ๆ ซึ่งอิงกับธรรมชาติ
เราเลือกพักที่ The Ritz-Carlton Koh Samui ซึ่งเป็นโรงแรมน้องใหม่ของกลุ่ม YTL เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ท 5 ดาวหลายแห่งทั่วโลก YTL Hotels ได้ร่วมกับทีมบริหารจาก The Ritz-Carlton เพื่อรังสรรค์พื้นที่บนเขากว่า 146 ไร่ ให้กลายเป็นห้องพักและวิลล่าหรูกว่า 175 ห้อง ด้วยทำเลที่ตั้ง ที่เป็นชัยภูมิโดดเด่น แขกที่มาพักที่โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เกาะสมุย จึงสามารถเห็นวิวทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และตก ได้อย่างสวยงามทุกช่วงเวลา ซึ่งจุดที่เห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดของโรงแรมยามเย็นคือ บริเวณ Arrival Lobby ที่รับรองต้อนรับแขกเมื่อมาถึงโรงแรม
อีกจุดหนึ่งซึ่งเป็นไฮไลท์ของโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เกาะสมุย ที่สามารถเห็นได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และตก คือบริเวณจุดสูงสุดของโรงแรมอย่าง The View หรือ The Peak ซึ่งช่วงบ่ายๆ จะเปิดบริการเป็น Afternoon Tea ส่วนช่วงเย็นจะเปิดบริการอาหาร Western Thai สไตล์ฟิวชั่น มีอาหารนำเสนอทั้ง A La Carte และเซ็ทคอร์ส ตั้งแต่ 5, 6 จนถึง 7 คอร์ส ซึ่งควรสั่ง หรือจองล่วงหน้า ก่อนเข้ารับประทาน
The Ritz-Carlton Koh Samui ประกอบด้วยห้องสวีทและวิลล่าจำนวน 175 ห้อง สะท้อนความงดงามทางสถาปัตยกรรมแบบไทย เราเลือกพักที่ห้องแบบ Ultimate Pool Villa ซึ่งเป็นห้องพักที่อยู่ริมสุดขอบเขา สามารถเห็นทิวทิศน์ทะเลอ่าวไทยแบบพาโนรามา ใต้ร่มเงาของต้นมะพร้าว พร้อมด้วยหน้าต่าง และระเบียงขนาดใหญ่เปิดกว้างรับแสงธรรมชาติ เปลี่ยนวิลล่าให้กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัว
ว่ายน้ำในสระขอบตัดกับทะเล ซึ่งให้ความรู้สึกเสมือนดั่งว่ายน้ำในทะเล แต่ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า ด้วยวิวกว้างไกลสุดขอบฟ้า อ่าวไทย
บรรยากาศภายในห้อง Ultimate Pool Villa ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาด 97 ตารางเมตร ภายในแบ่งเป็นโซน ห้องนอนขนาดใหญ่, ห้องรับแขก และห้องน้ำขนาดกว้างขวาง
ช่วงเย็นก่อนที่จะไปรับประทานอาหาร เราจึงเลือกสั่งเครื่องดื่มเริ่มต้น ก่อนมื้อหนัก ที่บริเวณ One Rai ซึ่งเป็นบาร์ที่อยู่ติดกับร้านอาหารหลักของโรงแรม และ ร้านที่เราจะดินเนอร์ค่ำนี้คือ The Ranch
The Ranch เป็นร้านอาหารแห่งใหม่ล่าสุดของโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เกาะสมุย เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นาน นำเสนอเสต็กสไตล์เปอโตริโก้ โดยได้เชฟซึ่งมาจากมอสโก เสิร์ฟเนื้อคุณภาพนำเข้าชั้นดี เคียงคู่กับไวน์ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายจาก Wine Cellar พร้อม สลัด และเมนูผักเพื่อสุขภาพสำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้ออีกด้วย
แค่เห็นก็อิ่มแล้ว ทานไปแทบจุก
คืนแรกเราจึงเข้านอนในห้องที่ตกแต่งแบบร่วมสมัย ด้วยเตียงนุ่มขนาดใหญ่ แบบหลับสบายด้วยความอิ่มแบบจัดเต็ม
เช้าวันต่อมา เราตื่นขึ้นมาแบบไม่รู้สึกหิว จึงไม่อยากเสียเวลาแห่งความสุข กับวิวสวยหน้าวิลล่า เลยตัดสินใจไม่ไปทานอาหารเช้าที่ร้านอาหาร SHOOK! แต่เลือกที่จะสั่งเบาๆ มาทานในห้อง พร้อมว่ายน้ำเล่น เพราะ Room Service ที่เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เกาะสมุย มีบริการอาหาร และเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน
ทานเบาๆ กันครับ
สายๆ หลังจากใช้เวลาเต็มที่ในวิลล่าส่วนตัวแล้ว จึงได้เวลานวดสปาที่เราจองไว้ ซึ่ง Spa Village แห่งนี้ นับเป็นสปาแห่งใหม่ในกลุ่ม YTL Hotels มีพื้นที่ 3,800 ตารางเมตร ได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบธรรมชาติภายในท้องถิ่น เพื่อคิดค้นการบำบัด และวิธีการรักษาแบบโบราณอันเลื่องชื่อของภูมิภาค โดยให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และประเพณี รังสรรค์โปรแกรมสปาแบบองค์รวม และโปรแกรมฟื้นฟูความอ่อนเยาว์
Spa Village ประกอบด้วย ศาลาทรีตเมนต์ 8 หลัง พาวิลเลียนสำหรับการนวด 3 หลัง พาวิลเลียนสำหรับการเล่นโยคะ สระว่ายน้ำพร้อมห้องอาบน้ำ และบาร์เพื่อสุขภาพ ซึ่งคุณจะได้พบกับความสวยงามของบรรยากาศ โดยรอบที่แตกต่างกัน ทั้งช่วงกลางวัน และช่วงเย็นค่ำ
Songkran Shower เป็นธรรมเนียมก่อนทำสปาอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้แนวคิดมาจากความสนุกสนานของการรดน้ำในประเพณีสงกรานต์ ก่อนจะเริ่มต้นการทำสปาทรีตเมนต์ในแบบที่คุณเลือก
หลังทำทรีทเม้นท์ Samui's Coconut Heritage ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ผลไม้ท้องถิ่นของสมุย มาเป็นส่วนผสมในการขัดผิว นวดตัว และหมักผม ตลอด 2 ชั่วโมง เราจึงมาพักผ่อนบริเวณ Private Lap Pool ภายใน Spa Village
หลังจากได้รับความผ่อนคลาย และหลับสบายจาก Spa Village ของ The Ritz-Carlton Koh Samui แล้ว เราจึงตัดสินใจไปนั่งรับลมทะเลยามบ่าย พร้อมรับประทานอาหารกลางวันตามสั่ง แบบง่ายๆ ที่ร้าน SEA SALT ซึ่งตั้งอยู่ริมชายหาด โดยวันอาทิตย์ และวันจันทร์จะเปิดบริการพิเศษในมื้อเย็น เป็นบาร์บีคิวกริลล์บนเตาถ่านแบบครัวเปิด พร้อมโชว์จาก วงดนตรี และกระบองไฟ อีกด้วย
ตลอดบ่ายวันนั้นเราจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ ชิลล์ๆ อยู่ที่ริมหาด และสระว่ายน้ำซึ่งมี Tides เป็นพูลบาร์ริมสระ นำเสนอเครื่องดื่ม cocktail เมนูหลากหลาย โดยมี Signature Drinks คือ Koh Samui และ Koh Phangan
Tides Pool ฺBar มีพื้นที่ชั้นบนอย่าง Tides Upper Deck ในช่วงยามเย็น สามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ตกจากบริเวณนี้ได้ อีกทั้งสามารถสั่งเครื่องดื่มก่อนเริ่มดินเนอร์ ซึ่งเย็นนี้เราเลือกไปทานอาหารไทย
Pak Tai ร้านอาหารที่อยู่ถัดจาก Tides Upper Deck นำเสนออาหารไทย และอาหารใต้แบบท้องถื่น รสชาติเยี่ยม ให้บริการอาหารเย็นทุกค่ำคืน ยกเว้นวันเสาร์ ด้วยบรรยากาศไทยๆ ภายในที่นั่งแบบส่วนตัว สามารถมองเห็นสระน้ำตรงกลาง ซึ่งช่วงกลางวันบริเวณนี้เป็น Swim Reef จุดดำน้ำ Snorkelling ชมปลา เสมือนอยู่ใต้ท้องทะเล ภายในรีสอร์ท ซึ่งนับว่าใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia
หลังจากหลับสนิทตลอดค่ำคืน เช้าวันรุ่งขึ้นเราจึงตัดสินใจ นั่งรถบักกี้ไปรับประทานอาหารเช้าที่ SHOOK! ห้องอาหารนานาชาติสุดชิคชื่อดัง ที่ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ เสิร์ฟเมนูสุดสร้างสรรค์สไตล์เอเชีย และตะวันตก มีเมนูผักและผลไม้ให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งมะพร้าว ผลไม้ท้องถิ่นที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะสมุยเสิร์ฟอีกด้วย
และแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกลับกัน โรงแรม The Ritz-Carlton Koh Samui ประกอบไปด้วยล็อบบี้รับรองลูกค้า 2 จุด คือ บริเวณต้อนรับเพื่อเข้าพักโรงแรม ซึ่งเป็นจุดที่ชม Sunset อย่าง Arrival Lobby ส่วนตอนกลับเราจะมาเช็คเอ้าท์กันที่ Departure Lobby ที่อยู่ใกล้เคียงกับร้านอาหาร SHOOK! ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกประทับใจ และอยากหวนกลับมาสัมผัสประสบการณ์พิเศษของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เกาะสมุย อีกในวันข้างหน้า
สัมผัสวิถีชีวิตแห่งสมุยที่ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เกาะสมุย +66 77 915 777, email reservations@ritzcarlton-kohsamui.com หรือ ritzcarlton.com/kohsamui