ซัมเมอร์ยาวๆ เที่ยวทะเล แชร์โมเมนต์ดีๆ ที่ คิมป์ตัน คีตาเล สมุย

ด้วยเพราะงานชุม จึงเป็นทริปแรกของปีขาล ที่ได้บินไปไกลลงใต้มาเกาะสมุย ทริปนี้เกิดจากความตั้งใจที่อยากมาเยี่ยมชม ดูโรงแรมใหม่ ในเมืองไทยของเครือ IHG อย่าง คิมป์ตัน คีตาเล สมุย รีสอร์ตแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของเครือนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวมีความชอบแบรนด์ Kimpton อยู่แล้ว

รีสอร์ตตั้งอยู่บริเวณหาดเชิงมน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสมุย ที่ห่างไกลจากความพลุกพล่านและวุ่นวาย หลังจากลงจากรถเดินเข้าสู่ล็อบบี้ก็สัมผัสได้ถึง แรงบันดาลใจในการออกแบบที่นำเสนอจากวิถีชีวิตของชาวสมุย ดีไซน์สไตล์หมู่บ้านชาวประมง ที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่น พร้อมความหรูหราแต่เข้าถึงง่ายด้วยกันอย่าง โดดเด่นและลงตัว

Welcome Drink เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากน้ำตาลมะพร้าวสมุย และชเวปส์มะนาวโซดา เสิร์ฟใส่ขวดแช่เย็น พร้อมน้ำแข็ง อย่าง Where is Coconut ? มาพร้อมผ้าเย็น เพื่อคลายร้อน และกำไรซึ่งนำทรายจากหน้าหาดเชิงมนมาใส่ เป็นกิมมิกเก๋ๆ ของ Kimpton Kitalay Samui ที่นำมาต้อนรับแขกตอนเช็คอินน์

คำว่า “คีตาเล” เกิดจากการเชื่อมคำไทยสองคำระหว่างคำว่า ‘คีตะ’ ที่หมายถึง บทเพลงหรือการขับร้อง และคำว่า ‘เล’ ที่นอกจากจะมีความหมายว่าทะเลแล้ว ยังรวมไปถึงวิถีชีวิตแห่งท้องทะเลอีกด้วย ‘คีตาเล’ จึงเปรียบเสมือนกับบทเพลงจากท้องทะเล ที่ได้รับการขับกล่อมอย่างก้องกังวานไปทั่วทั้งพื้นที่ของรีสอร์ต

มนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมงใกล้ชิดกับท้องทะเล คือแรงบันดาลใจของรีสอร์ตแห่งนี้ ที่ความร่วมสมัยและกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิมได้รับการออกแบบอย่างลงตัว โดย P49 Design บริษัทออกแบบชั้นนำของประเทศไทย ได้ประยุกต์ใช้เศษไม้จากเรือประมงมาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ชวนให้ย้อนนึกถึงอดีต จนกลายมาเป็นการออกแบบที่เหนือกาลเวลา เช่น งานศิลปะจากช่างฝีมือชาวไทย การตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน และระเบียงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกลียวทะเล ที่ทำให้ห้องพัก และพูลวิลล่าจำนวน 138 ห้องใน Kimpton Kitalay Samui มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยลวดลายกระเบื้องไทยบนพื้นห้องน้ำ และงานศิลปะชิ้นเอกบนผนัง 

ทุกห้องพักจะมาพร้อมกับเสื้อคลุมอาบน้ำสีฟ้าน้ำทะเลจากผ้าทอมือเนื้อนุ่ม ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษโดยเฉพาะจากช่างตัดเสื้อท้องถิ่น และลำโพงบลูทูธพกพากันน้ำจาก Marley No Bounds พร้อมกับอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พิเศษที่จะมอบประสบการณ์การผ่อนคลายที่เหนือระดับด้วย amenities กลิ่นซิกเนเจอร์เฉพาะของรีสอร์ตอย่างเกลือทะเลและพิมเสน (Sea salt and Patchouli) ที่มีให้บริการทั้ง bath bombs, bath salts และ milk baths นอกเหนือจากนี้แล้วเรายังสามารถขอ Face Mask Sommelier เพื่อขอรับคำแนะนำและจัดเตรียมกลิ่นมาส์กโดยเฉพาะสำหรับช่วงเวลาแห่งการแช่น้ำผ่อนคลาย

วันรุ่งขึ้นเราได้มาทานมื้อเช้าแบบสายๆ หน่อย ที่ BoHo Thai Lifestyle Café คาเฟ่สไตล์ไทยที่ผสานความเก๋ และความอาร์ตไว้อย่างลงตัว พร้อมการตกแต่งในสไตล์เรโทร ด้วยพื้นที่เปิดโล่ง แต่เต็มไปด้วยสีสัน ร้านนี้เปิดบริการทั้งวัน ในบรรยากาศของคาเฟ่ที่รายล้อมด้วยงานศิลปะไทยร่วมสมัย และงานศิลปะทำมือ ซึ่งหากชอบชิ้นไหนในร้านนี้ก็สามารถเลือกซื้อกลับบ้านไปได้อีกด้วย ส่วนเมนูได้วัตถุดิบสดใหม่ รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องของเมนูอาหารไทยท้องถิ่น

Pimãanda by HARNN สปาที่ คิมป์ตัน คีตาเล สมุย ได้รับการดูแลตั้งแต่แรกเริ่มโดย HARNN มีโปรแกรมให้ผ่อนคลายด้วยบริการซิกเนเจอร์ 14 ขั้นตอน หรือ “Paradise of Wondrous Sea” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรำมโนราห์จากจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทย เริ่มต้นด้วย กษิธารา หรือการอาบน้ำนม ก่อนขัดผิวด้วยสครับจากไข่มุกธรรมชาติเตรียมผิวให้พร้อมเปล่งประกาย และ Trio of Bliss หรือการนวดน้ำมันอุ่นที่ผสมผสานเทคนิคการนวดสามแบบเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งนับเป็น singnature ของที่นี่ด้วย เราได้เลือกเมนู Bliss of Rumpaa ระยะเวลา 90 นาที โดยเทคนิคการนวด 3 แบบ คือ นวดไทย, ยืดเส้นโยคะ และ นวดแบบ Swedish ซึ่งท่านวดต่างๆ ประกอบกับน้ำมันอุ่นนั้น ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงของเราให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

Lanai Bar & Lounge คือบาร์สุดชิลที่ยามบ่าย หลังจากสปา เรามาปล่อยกาย ซึ่งร้านนี้สามารถแวะเข้ามาผ่อนคลายได้ตลอดทั้งวัน ตั้งอยู่ติดกับล็อบบี้ของรีสอร์ต Lanai จึงเปรียบเสมือนกับห้องรับรองที่ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของรีสอร์ต เป็นจุดที่เราจะได้รับเช็คอินน์ พร้อมมองวิวเบื้องหน้าจากสระว่ายน้ำเชื่อมต่อไปยังทะเล ซึ่งเสมือนกับเป็นสัญลักษณ์สำหรับมาเช็คอินน์ที่ Kimpton Kitalay Samui ลง IG ของทุกๆคน  

Lanai ออกแบบที่เน้นความโปร่งโล่งสบาย รับแสงธรรมชาติตลอดทั้งวันด้วยฉากกั้น และหน้าต่างบานใหญ่สูงพื้นจรดเพดาน พร้อมเปิดรับวิวของสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ กลิ่นหอมกรุ่นจากเมล็ดกาแฟอาราบิกาออร์แกนิกจากท้องถิ่น พร้อมด้วยเครื่องดื่มกาแฟหลากรูปแบบตั้งแต่แบบดริปคลาสสิค โคลด์บรูว ไปจนถึงเมนูกาแฟสุดสร้างสรรค์ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการ ในทุกช่วงเวลาของวัน โดยบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าอยากจะเพิ่มรสชาติให้กับความพิเศษของค่ำคืน จินจากโรงกลั่นท้องถิ่น ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับคราฟต์โทนิก หรือจะเป็นสุราท้องถิ่นที่ร้านก็มีให้เลือกสรรตามความชอบ

บ่ายแก่ๆ หลังจากแดดเริ่มคล้อย เราจึงได้ฤกษ์ขยับตัวออกไปสู้กับแดด อันแรงกล้า ซึ่งแอบดีใจเบาๆ ว่าทริปนี้มาไม่เจอฝน แม้จะร้อนแค่ไหนก็พร้อมสู้ บริเวณระหว่างชายหาดและสระว่ายน้ำคือ SHADES OCEAN LOUNGE & BAR ซึ่งช่วงวันหยุดจะมีดีเจมาเปิดเพลงมีบีท พร้อมบรรยากาศของแขกที่อาจจะเล่นน้ำ หรือ เล่นเกมส์กับกลุ่มเพื่อน ส่วนเราขอแนะนำ กิจกรรมเบาๆ อย่างการนั่งจิบมาการิต้า พร้อมอ่านหนังสือสักเล่ม หรือเลือกเครื่องดื่มสไตล์ทิกิแสนสดชื่น สลับคราฟต์เบียร์เย็นๆ พร้อมทาโก้ปลารสจัดจ้าน ล็อบสเตอร์โรลสดใหม่ และ หอยนางรม ก่อนจะไปจัดหนัก ในช่วงดินเนอร์ที่ร้านอาหารริมทะเล

ขยับตัวออกไปไม่กี่ก้าวก็ถึง FishHouse ร้านอาหารริมชายหาดที่เปิดโล่ง รับวิวท้องทะเล เห็นเรือประมงที่ค่อยๆ แล่นกลับเข้าฝั่ง ในขณะที่พระอาทิตย์เตรียมลับขอบฟ้า พื้นที่ของร้านยังมีศาลาไม้ทรงไทยบริเวณตรงกลาง หรือ The Living Room เปรียบเสมือนจุดศูนย์รวมของบ้าน ให้ทุกสมาชิกในครอบครัวมารวมตัวกัน ถัดออกไปไม่ไกลจะเป็นบริเวณของบาร์ ที่เครื่องดื่ม เพื่อให้สมกับบรรยากาศและกลิ่นอายของวิถีชาวเลในหมู่บ้านชาวประมงท้องถิ่น FishHouse จึงเลือกเสิร์ฟแต่วัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ และได้รับการปรุงรสชาติอย่างลงตัว ในช่วงวันหยุดที่ร้านยังมีเมนูเซ็ทเสิร์ฟ ซึ่งสามารถเลือกทาน พร้อมเซ็ทเครื่องดื่มได้อีกด้วย

วันหยุดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต้องบอกว่าพอมีเวลาได้บินมาพักผ่อนไกลๆ อย่างสมุย เกือบทุกทริปเราจะใช้เวลาเดินชิลล์ หรือนั่งสูดรับลมทะเล พร้อมปล่อยใจไม่โฟกัสกับงานใดๆ แม้จะติดโทรศัพท์อยู่ที่มือ แต่ต้องอดใจไม่เปิดรับการเตือนจากทุกช่องทาง Kimpton Kitalay Samui นับเป็นรีสอร์ทใหม่ที่ใช้ของมีคุณภาพ ห้องพักใหญ่ พื้นที่รีสอร์ทกว้างขวางพอดี สามารถเดินไปใช้บริการส่วนต่างๆ ได้ อย่างไม่ห่างไกล และชายหาดสวยงาม มีความเป็นส่วนตัว หากตื่นเช้าหน่อยมาเดินริมหาดก็จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย นับเป็นอีกรีสอร์ทหรูในสมุยที่ส่วนตัวรู้สึกถึงความคุ้มค่าของราคาที่พัก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.kimptonkitalaysamui.com