แม้ช่วงนี้จะเริ่มเข้าใกล้สู่หน้าฝนแล้ว แต่ยังมีแนวโน้มว่าอากาศยังคงร้อนระอุุต่อเนื่อง ลุ้นให้ฝนตกที ก็มาแบบนานๆ จะตกซักที เราจึงตัดสินใจหาวันหยุดบินไปเที่ยวแบบนานๆ ถี่ จุดหมายปลายทางอยู่ที่ภูเก็ต ด้วยเพราะเราเองก็ไม่ได้ไปภูเก็ตบ่อยมากนัก แน่นอนว่าโรงแรมที่จะเลือกไปพักต้องเป็นรีสอร์ทแห่งใหม่ที่ยังไม่เคยไป ... Rosewood Phuket จึงเป็นโรงแรมแรกที่เรานึกถึง และแน่นอนว่าช่วงวันที่เราหยุด มีห้องพักว่างพอดี เลยรีบตีตั๋วบินลงด่วนเพื่อไปคลายร้อน ยังรีสอร์ทหรู
Rosewood Phuket ตั้งอยู่ที่หาดไตรตรัง หรือที่รู้จักกันในชื่อเอเมอรัลด์ เบย์ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของภูเก็ต จุดเด่นของที่นี่คือ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพราะไม่ไกลจากตัวเมือง และชายหาดป่าตอง หลังจากเราลงจากเครื่องที่สนามบินแล้ว จึงตัดสินใจเช่ารถจากเคาน์เตอร์ AVIS เพื่อขับรถเอง ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เข้าสู่ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ตึกเก่า และร้านอาหารท้องถิ่นรสชาติเยี่ยม จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่เส้นทางขึ้นเขาไปทางหาดป่าตอง และเลี้ยวเข้าสู่หาดไตรตรัง
เราไม่ได้มาหาดไตรตรังหลายปีแล้ว ล่าสุดที่มาคือมาเที่ยวหาดส่วนตัวอย่างหาด Paradise ซึ่งตอนนั้นมีงานปาร์ตี้ กลับมารอบนี้จึงพยายามมองหาป้าย Rosewood Phuket ตลอดเส้นทางระหว่างขับรถ (เพราะกลัวหลง) สุดท้ายแอบเห็นป้ายเล็กๆ แว๊บ ข้างๆ ก่อนจะ ... เลยไปต่อหน้าต่อตา !!! ป๊าดดด ... จึงต้องหาทางกลับรถย้อนกลับมา และมารู้ทีหลังว่า จริงๆ แล้วโรงแรมมีประตูทางเข้าข้างหน้าอีก เราเข้าใจว่าด้วยคอนเซ็ปท์ ความเป็นห้าดาวของแบรนด์ Rosewood Hotels & Resorts® น่าจะเหมือนหลายๆ รีสอร์ทหรู ที่ต้องการให้แขกรู้สึกเป็นส่วนตัว และหลีกหนีความวุ่นวายจากโลกภายนอก จึงออกแบบป้ายทางเข้าเล็กๆ เพียงจุดเดียว
เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้วจึงพบกับรปภ. เพื่อเปิดประตูรั้วบานใหญ๋ข้างหน้าที่ปิดอยู่มิดชิด ให้เราขับรถเข้าไป ... นี่เองจึงเป็นเหตุผลที่ทำไม ซุปเปอร์สตาร์ ดาราดัง และเซเล็บบริตี้ทั่วโลก ต่างเลือกมาพักที่ Rosewood เวลามาภูเก็ต หลังจากนั้นจึงมีพนักงาน Valet มารับกุญแจรถเพื่อเอาไปเก็บ เราพบว่าเบื้องหน้าของเราคือประตูสู่ล็อบบี้โรงแรมบานใหญ่ ต้อนรับเราอยู่ เสมือนเราเป็นลูกค้าวีไอพี กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกของ โรสวูด ภูเก็ต ก่อนจะพบยอดไม้และน้ำทะเลที่อยู่สุดสายตา หน้าล็อบบี้
BAR Studio บริษัทออกแบบจากเมลเบิร์น ได้ตีความปรัชญา A Sense of Place® ของโรงแรมโรสวูด ผ่านสไตล์การออกแบบทางสถาปัตยกรรมร่วมสมัย และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน หลังจากได้สัมผัสถึงการพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว พนักงานโรงแรมจึงเช็คอินน์ มอบการ์ดห้องพักให้ พร้อม Welcome Drink ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะดื่มอะไร เราจึงไม่รอช้า เลือกดื่มแชมเปญ ซึ่งอยู่ในลิสต์ของ Welcome Drink ด้วย !!!
หลังจากเช็คอินน์เรียบร้อยพนักงานจึงพาเรานั่งรถบักกี้ไปยังห้องพัก อย่างห้อง THE BEACH HOUSE ขนาด 796 ตารางเมตร ซึ่งประกอบไปด้วย สองห้องนอน มีห้องนอนเตียงใหญ่หนึ่งหลัง และอีกหลังเป็นห้องนอนเตียงคู่ และห้องรับประทานอาหาร กับห้องนั่งเล่นที่แยกกันอย่างเป็นสัด เป็นส่วน เรายังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายในสระว่ายน้ำส่วนตัว ที่มีระนาบเดียวกันกับท้องทะเล หรือเลือกที่จะเดินลงไปแหวกว่ายในน้ำทะเลใสๆ ของหาดเอเมอรัลด์ เบย์ (หาดไตรตรัง) ก็ยังได้
การตกแต่งภายในวิลล่าซึ่งหันหน้าเข้าหาท้องทะเล ให้ความรู้สึกอบอุ่นเรียบง่ายราวอยู่กับบ้าน ภายในได้รับการตกแต่งที่ผสมผสานความเป็นตะวันออกกับตะวันตก มีทั้งความร่วมสมัยและสไตล์ดั้งเดิม ความเขียวชอุ่มของสวนขนาดย่อม และระเบียงใต้ร่มเงา พร้อมด้วยที่นั่งอันผ่อนคลาย อย่าง โซฟากึ่งเตียงนอนหรือเดย์เบด ในส่วนภายในห้องพัก มีการออกแบบหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานทำให้ห้องพักดูโปร่งสบาย ตกแต่งด้วยวัสดุ และเฟอร์นิเจอร์คุณภาพเยี่ยม ที่สำคัญยังมีลำโพงเสียงดี "Marshall" มาให้เราฟังเพลงก่อนนอนคืนนี้ นอกจากนั้นในวิลล่ายังมีพื้นที่ข้างนอกที่เปิดโล่ง อย่างบริเวณอ่างอาบน้ำ ยังช่วยทำให้พื้นที่ในร่ม กับพื้นที่กลางแจ้งดูกลมกลืนกันอย่างลงตัว
Rosewood Phuket ตั้งอยู่ติดชายหาดที่ทอดตัวยาวกว่า 600 เมตร ภายในพื้นที่ซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม 109 ไร่ มีพูลพาวิลเลียน และวิลล่าทั้งหมด 71 หลัง สิ่งที่ทำให้เราชอบมากเมื่อมาเยือนที่นี่คือ ความร่มรื่นของธรรมชาติ เพราะเราชอบมาเที่ยวทะเล แต่ก็ไม่ได้อยากตากแดด ตลอดทั้งวัน ยิ่งช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ แล้วด้วย คงจะร้อนพอๆ กับกรุงเทพ จะอยู่ตากแอร์แต่ในห้องก็คงไม่ใช่ ด้วยการอนุรักษ์ต้นไม้เก่าแก่ในพื้นที่ อย่างต้นไทรอายุ 150 ปี หรือการย้ายต้นไม้ดั้งเดิมประจำท้องถิ่นมาปลูกในที่ใหม่ จึงเป็นสาเหตุให้ที่นี่มีเสน่ห์ต่างจากรีสอร์ทอื่น ที่เราสามารถใช้เวลาระหว่างวันนั่งเล่นข้างนอกห้องได้
หลังจากพักผ่อนภายในวิลล่าได้พอสมควรแล้ว เราจึงกลับไปที่สระว่ายน้ำส่วนกลาง ซึ่งมีทางเดินไปยังชายหาด และบริเวณนี้ยังมี The Shack คาเฟ่อาหารทะเล และร้าน Mai เลาน์จ บรรยากาศสุดเก๋น่านั่ง พร้อมมุมถ่ายรูปมากมาย เราจึงตัดสินใจดื่มอะไรเย็นๆ และนั่งชิลล์ๆ เล็กน้อย ก่อนถึงเวลาดินเนอร์ซึ่งร้านอาหารดังกล่าว ตั้งอยู่อีกฝั่งของโรสวูด
ฤดูนี้พระอาทิตย์ตกช้า แม้ว่าจะใกล้หกโมงแล้ว เราเริ่มจะหิว จึงไม่รีรอขอบักกี้พาไปส่งที่ร้านอาหารไทยต้นตำรับ อย่างร้าน Ta Khai เมื่อรถบักกี้มาส่งถึงร้าน บรรยากาศเบื้องหน้าทำให้เราเข้าใจได้ถึงคอนเซ็ปท์ร้านตาข่าย ด้วยการตกแต่งแบบอันดัสเทรียล ชิค กลิ่นอายแบบหมู่บ้านชาวเล ริมชายหาดไตรตรัง ที่มีหลังคาสังกะสี วัสดุมีเหล็ก และไม้ เป็นองค์ประกอบหลัก จึงทำให้สีของ Ta Khai ออกเป็นน้ำตาลแดง และเทา มีสีเขียวจากแปลงพืช ผัก ปลอดสารพิษ ที่ปลูกภายใน ตัด เพื่อเพิ่มความสดใส นอกจากนำผักเหล่านี้มาเสิร์ฟในอาหารแล้ว
ความพิเศษของร้านซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อ Ta Khai คือ มีกระชัง กุ้ง ปู และ ปลา ตัวเป็นๆ ให้ลูกค้าเลือกวัตถุดิบสดๆ มาปรุงได้ตามความต้องการ พร้อมเห็นเชฟทำอาหารจากครัวเปิด ซึ่งเป็นผูู้ที่มีประสบการณ์ในการทำอาหารในพื้นที่มากว่า 30 ปี ดังนั้นเราจึงเห็นว่ามีลูกค้าทั่วไป ที่ไม่ได้พักในโรงแรม ติดใจในฝีมือเชฟเข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน ซึ่งมีประตูทางเข้าแยกส่วนตัว จากโรงแรม Rosewood Phuket อยู่ต่อเนื่อง สำหรับเมนูแนะนำของร้าน คืออาหารขึ้นชื่อของภูเก็ตอย่าง แกงปูใบชะพลู, หมูฮ้อง, ห่อหมกทะเล, ปอเปี๊ยะสด, ยำส้มโอกุ้ง พร้อมขนมไทยหาทานยากอย่าง "ขนมถ้วย" ก็มีในร้านตาข่าย หวานปิดท้ายก่อนนอนอีกด้วย
Rosewood Phuket ยังมี Wellness Atelier อย่าง Asaya ซึ่งตั้งอยู่ในสวนสมุนไพรและพรรณไม้ท้องถิ่น เพื่อให้เราได้เปิดประสบการณ์ประสาทสัมผัส โดยมอบกลิ่นหอมหวานจากดอกมะลิ และดอกพุด ในตอนแรกที่เดินเข้าไป หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นกลิ่นอันเปี่ยมไปด้วยพลัง และสดชื่นจากตะไคร้ ใบสะระแหน่เมื่อเราเดินตามทางมาเรื่อยๆ โดยมีการนำใบกะเพราแดง ใบแมงลัก ใบมะกรูด ใบมิ้นต์ ใบยี่หร่า และใบเตย มาบด และผสมเป็นส่วนผสมพิเศษของแต่ละคน เพื่อใช้ในการขัดตัว ห่อตัวพอกตัว และทำลุกประคบสมุนไพร เราสามารถเลือกสมุนไพร และช่วยเตรียมส่วนผสมในการบำบัดได้ด้วยตัวเอง สมุนไพรสดของไทยยังนำมาทำเป็นน้ำมันหอมระเหย ใช้ในการนวดบำบัดหรือที่เรียกว่า Asaya Atelier Body Path ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เราผ่อนคลายอย่างล้ำลึก มีพลัง สมองปลอดโปร่ง ล้างสารพิษในร่างกาย และผ่อนคลายกล้ามเนื้ออีกด้วย
จุดเด่นของรีสอร์ทใหม่หลายๆ แห่งคือ มีบริการฟิตเนสเซ็นเตอร์ ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากที่เทรนเนอร์กลับ ในช่วงค่ำแล้ว หากคุณต้องการออกกำลังกาย ยังสามารถใช้คีย์การ์ดเข้าไปเล่นเองได้ ภายในประกอบด้วยอุปกรณ์ใหม่เอี่ยมอย่าง คาร์ดิโอวาสคูลา อุปกรณ์เพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และอุปกรณ์เวท เทรนนิ่ง ตั้งเรียงเป็นแถว เรายังสามารถทำโยคะ พิลาทิสบนเสื่อ และ HIIT/Tabata กลางแจ้งได้ ที่นี่ยังมีคลาสหลากหลายในแต่ละวัน ซึ่งมีตารางโปรแกรมวางอยู่ภายในห้องพัก เราจึงสามารถร่วมคลาส กับเทรนเนอร์ Rosewood Phuket ซึ่งมีประสบการณ์มาจากคลับชั้นนำในกรุงเทพได้
ตกบ่ายหลังจากที่เราเข้ายิมเรียกเหงื่อแล้ว เริ่มจะหิวอีกครั้ง จึงเลือกทานอาหารกลางวันที่ Red Sauce เดินจากยิมไปไม่ไกล ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสระว่ายน้ำส่วนกลาง แต่อยู่ชั้นบน เปิดให้บริการตั้งแต่มื้อเช้า ซึ่งสามารถตักอาหารได้ทั้งจากในไลน์บุฟเฟ่์ต์ และสั่งจากเมนู ยังมีอาหารเพื่อสุขภาพบริการมากมายใน Breakfast ตั้งแต่สลัด, น้ำผัก และผลไม้ปั่น บ่ายวันนี้เราจึงเลือกสั่งเมนูอิตาเลี่ยนที่แนะนำ ของ Red Sauce อย่างพิซซ่า และพาสต้า มาทาน สำหรับบรรยากาศของร้านนั้น มีทั้งที่นั่งด้านนอก และด้านในร้าน หากวันไหนอากาศร้อนก็สามารถนั่งตากแอร์ดูเชฟทำพิซซ่าจากครัวเปิดได้ หรือหากอากาศดี มีลมอย่างวันนี้ เราก็นั่งทานข้างนอกเพื่อดูวิวสระว่ายน้ำ ซึ่งมองออกไปไกล เห็นได้ถึงทะเล
หลังจากอิ่มจากอาหารอิตาเลี่ยนที่ร้าน Red Sauce แล้วจึงกลับเข้าห้องพักอีกครั้ง เพื่อเก็บกระเป๋าและเตรียมตัวกลับกรุงเทพ รถบักกี้มารับเราที่หน้าวิลล่า พาไปยังล็อบบี้ก่อนพนักงาน Valet จะนำรถมาจอดรอข้างหน้า ... มาภูเก็ตทริปนี้ใช้เวลาเที่ยวใกล้เคียงกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะ Rosewood Phuket มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง มีร้านอาหาร และสปา ให้เราได้ใช้เวลาพักผ่อนในรีสอร์ทได้ทั้งวันอย่างไม่มีเบื่อ เห็นแบบนี้แล้วรอบหน้ามาภูเก็ต คงต้องหาวันหยุดยาวๆ เพื่อมาเที่ยวที่นี่อีก
ขอบคุณ AVIS Thailand สนับสนุนการเดินทางในภูเก็ต และ โรงแรม Rosewood Phuket ซึ่งนำเสนอ Experience a Serene Island Escape พิเศษ Exclusive เฉพาะคนไทย ภายใน 19 ธันวาคม 2562 เท่านั้น !!! เพียงแจ้งว่า มาจาก GLAM Thailand พร้อมรับสิทธิ์ ดังนี้
๐ Garden Pool Pavilion THB 13,000 per room/ night
๐ Partial Ocean Pool Pavilion THB 15,000 per room/ night
๐ Ocean View Pool Pavilion THB 17,000 per room/ night
ราคาดังกล่าวรวมอาหารมื้อเช้าที่ Red Sauce, ส่วนลด 25% เฉพาะค่าอาหารที่ร้านอาหาร ภายในรีสอร์ท และ ทรีทเม้นท์ที่ Asaya, Wi-Fi สำหรับอุปกรณ์ 5 เครื่อง ทั้งภายในห้องพัก และในรีสอร์ท, เข้า Fitness ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือ จองห้องพัก โทร.+66 76 356 888 อีเมลล์ phuket.reservations@rosewoodhotels.com หรือ www.rosewoodhotels.com/phuket