"RADO" จับมือกับเหล่าอินเตอร์เนชั่นแนลดีไซเนอร์ชื่อดัง นำเสนอ 3 เรือนเวลา ลิมิเต็ด อิดิชั่น ส่งท้ายปี 2017

"RADO" จับมือกับเหล่าอินเตอร์เนชั่นแนลดีไซเนอร์ชื่อดัง นำเสนอ 3 เรือนเวลา ลิมิเต็ด อิดิชั่น ส่งท้ายปี 2017

ราโด (RADO) ผู้สรรสร้างนวัตกรรมเวลาและสุดยอดงานดีไซน์ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ (The Master of Materials) จากสวิตเซอร์แลนด์ จับมือกับเหล่าอินเตอร์เนชั่นแนลดีไซเนอร์ชื่อดัง นำเสนอความแปลกใหม่ผ่านวิสัยทัศน์และมุมมองของแต่ละคน สู่เรือนเวลาคอลเลคชั่นพิเศษส่งท้ายปี 2017 กับ 3 ตัวแทนลิมิเต็ด อิดิชั่น ของกลุ่มคอลเลคชั่น ทรู (True) ที่ผสมผสานงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และคงคอนเซปต์มินิมอลตามปรัชญาของแบรนด์ไว้อย่างครบครัน อย่าง ราโด ทรู ฟอสโฟ (Rado True Phospho), ราโด ทรู เบลซ (Rado True Blaze) และ ราโด ทรู ชาโดว์ (Rado True Shadow)

 

 

 ราโด ทรู ฟอสโฟ (Rado True Phospho)

 

 

ความพิเศษที่เหนือกว่าคำว่าดีไซน์ ตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ทำจากไฮเทค เซรามิกสีดำด้าน มาพร้อมสายนาฬิกา เข็มบอกชั่วโมง และนาที สีเดียวกับตัวเรือน ดีไซน์แบบเรียบง่าย แต่แฝงด้วยองค์ประกอบที่มีลูกเล่นและสร้างความประหลาดใจ หน้าปัดทองเหลืองสีดำแบบเจาะรู เผยให้เห็นเสน่ห์อันลึกลับของกลไกอัตโนมัติที่ซ่อนอยู่ภายใน เติมเต็มช่องว่างบนหน้าปัดด้วย Super-LumiNova อีกกิมมิคที่นำเสนอดัชนีบอกเวลาแบบเรืองแสงได้อย่างแยบยล สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง ฝาหลังตัวเรือนแกะสลักแบบเป็นพิเศษ ผลิตจำกัดเพียง 1,003 เรือน โดย 1,000 เรือนสำหรับลูกค้าทั่วไปและอีกสามเรือนสำหรับนักออกแบบเอง สนนราคา 78,500 บาท

 

 

 

โดยสามดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังแห่ง Big-Game กล่าวว่า "คำจำกัดความของคอลเลคชั่นพิเศษนี้คือความเรียบง่ายและน้ำหนักเบา ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะออกแบบโดยการลดจำนวนวัสดุแทนที่จะเป็นการเพิ่ม เราชอบความแตกต่างระหว่างเซรามิคสีดำด้านและการเคลือบ Super-LumiNova ที่เรืองแสง การตัดกันของสีดังกล่าวไม่เพียงแต่ให้ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถดูเวลาได้ในที่มืดอีกด้วย"

 


 

 

 ราโด ทรู เบลซ (Rado True Blaze) 

 




เรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชั่น จำนวน 1001 เรือน รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความน่าหลงใหลและความเย้ายวนใจในการออกแบบ ตัวเรือนและสายทำจากพลาสม่า ไฮเทค เซรามิก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยพื้นหน้าปัดสีเงิน ที่ผ่านการรังสรรค์ด้วยเทคนิคพิเศษซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่อย่าง Galvanic มอบประกายระยิบระยับราวกับดิสโก้ บอลยามต้องแสง แม้จะมีองค์ประกอบที่ดูหรูหรา ทว่าเรือนเวลารุ่นนี้ยังคงดีเอ็นเอความมินิมอลได้เป็นอย่างดี ด้วยโลโก้และอินเด็กซ์บอกเวลาสีทอง ประดับไว้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ ณ ด้านล่างของกระจกหน้าปัด จึงเปรียบเสมือนลอยอยู่เหนือหน้าปัดอย่างงดงาม ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง ฝาหลังแกะสลักพิเศษ สนนราคา 78,500 บาท

 

 



ผลงานการออกแบบโดย แซม อาโมเอีย (Sam Amoia) นักออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำชาวอเมริกัน ผู้ได้รับการเสนอชื่อโดยนิตยสาร Vogue ว่าเป็น “ผู้ออกแบบตกแต่งภายในรุ่นใหม่คนหนึ่งที่ต้องจับตามอง” และล่าสุดได้รับรางวัล “Rising Talent” จากงาน Paris Maison & Objet อันทรงเกียรติ โดยแซม อาโมเอีย (Sam Amoia) กล่าวถึงแรงบันดาลใจของผลงานชิ้นนี้ว่า "ผมต้องการสร้างสรรค์ผลงานที่เรียบง่าย แต่เป็นนวัตกรรมใหม่ และเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบและสุนทรียศาสตร์ของผม ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นผลงานที่มีคุณภาพเหนือคำบรรยาย แต่คงไว้ซึ่งความเรียบง่ายและสวยงามอย่างไร้กาลเวลา”

 



 

ราโด ทรู ชาโดว์ (Rado True Shadow)

 

 

ราโด ทรู ชาโดว์ (Rado True Shadow) มาพร้อมตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ทำจากไฮเทค เซรามิกสีดำเงา โครงสร้างฉลุแบบสเกเลตัน เข็มบอกเวลาโรเดียมเคลือบ White Veneer ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง ฝาหลังแกะสลักพิเศษ ผลิตจำกัดเพียง 1,001 เรือน สนนราคา 74,900 บาท

 

 

 

เผยสิ่งที่มองไม่เห็นให้สามารถมองเห็นได้ ผลงานการออกแบบโดย คูนิฮิโกะ โมรินะงะ (Kunihiko Morinaga) นักออกแบบแฟชั่นชาวญี่ปุ่นระดับแนวหน้า ซึ่งผลงานของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในวงการสิ่งทอแบบโฟโตโครมิก โมรินะงะ (Morinaga) ถ่ายทอดศาสตร์อันเชี่ยวชาญสู่เรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชั่น โดยผสานวิถีแห่งแฟชั่นและเทคโนโลยีไว้ด้วยกันอย่างแยบยล กับความท้าทายในการนำเสนอมุมมองของเรือนเวลายามตอบสนองต่อแสงสีที่เปลี่ยนไปในชีวิตประจำวัน กล่าวคือ เมื่อนาฬิกาสัมผัสกับแสง หน้าปัดของทรู ชาโดว์ จะเปลี่ยนเป็นโทนมืดสนิทเพื่อเป็นการคอนทราสต์ทำให้ดูเวลาได้ง่าย แต่เมื่อยามอาทิตย์ลับขอบฟ้า หน้าปัดจะค่อยๆจางลงจนกลายเป็นสีเทาและโปร่งใสในที่สุด เผยให้เห็นกลไกอัตโนมัติที่ซุกซ่อนอยู่ภายในได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเขาอธิบายว่า “แนวคิดของผมคือการเอาสีเพิ่มเข้ามาและการนำสีออกไป ผมพยายามจับเอสเซนส์ของเวลาที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงมาไว้ในการออกแบบครั้งนี้ โดยอาศัยเลนส์แบบโฟโตโครมิกที่เปลี่ยนสีตามแสง UV มาเป็นหัวใจสำคัญ”

 

 

สัมผัสเรือนเวลาอันโดดเด่นจากคอลเลคชั่นล่าสุดได้แล้ววันนี้ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร. 02-610-0200

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้