ประกาศผลอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ “Vogue Who’s on Next, The Vogue Fashion Fund 2017” (โว้ก ฮูวส์ ออน เน็กซ์, เดอะ โว้ก แฟชั่น ฟันด์ 2017) สุดยอดโครงการเฟ้นหาดีไซเนอร์ไทยที่มีศักยภาพทั้งด้านการออกแบบและธุรกิจ เพื่อผลักดันให้เป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีศักยภาพพร้อมที่จะแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งจัดโดย นิตยสาร โว้ก ประเทศไทย (VOGUE THAILAND) นิตยสารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนิตยสารแฟชั่นทรงอิทธิพลที่สุดเล่มหนึ่งของโลก โดยได้เผยโฉม 11 ผู้เข้ารอบสุดท้ายผ่านแฟชั่นโชว์เต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ณ ฮอล์ ออฟ เฟม ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมประกาศผลรางวัลผู้ชนะเลิศที่จะคว้าเงินรางวัล 1 ล้านบาท และสิทธิ์ในการได้รับคำปรึกษาด้านธุรกิจแฟชั่นจากผู้เชี่ยวชาญตลอดระยะเวลา 1 ปี เต็ม โดยงานนี้ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, เจค็อบส์ ครีก, บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ แบรนด์เครื่องสำอางนาร์ส
ภายในงานได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ อาทิ จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล, สธน ตันตราภรณ์, จงกล พลาฤทธิ์, วรัตดา ภัทโรดม, โสภาวดี เพชรชาติ, ฮัสซัน บาซาร์, มลลิกา เรืองกฤตยา, วรวิทย์ ศิริพากย์ และ ศุภจักร ไตรรัตโนภาส โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ในแวดวงแฟชั่น อาทิ อินทิรา ธนวิสุทธิ์, จิตติมา วรรธนะสิน, ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่, ณัฐ ประกอบสันติสุข, ม.ล.อรดิศ สนิทวงศ์, คณชัย เบญจรงคกุล และ จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล เป็นต้น มาร่วมชมผลงานของ 11 แบรนด์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย อันได้แก่ แบรนด์เสื้อผ้าสุภาพสตรี อาทิ Narong (ณรงค์) Kanapot Aunsorn (คณาพจน์ อุ่นศร) Everyday Apparels (เอวี่เดย์ แอพพาเรล) Pitchana (พีชนา) แบรนด์เสื้อผ้าสุภาพบุรุษ อาทิ Jinumo (จินอูโม่) Leisure Projects (เลเชอร์ โปรเจ็กต์ส) Takara Wong (ทาการะ วอง) และแบรนด์เครื่องประดับ อาทิ La Jewelry (ลา จิวเวลรี่) Forrest (ฟอร์เรสท์) a Pale Petal (อะ เพลเพทเทิล) และ La Orr (ละออ)
คุณกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร นิตยสารโว้ก ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ Vogue Who’s on Next, The Vogue Fashion Fund 2017 ได้จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 โดยปีนี้มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เพราะเราอยากเห็นธุรกิจแฟชั่นของไทยเติบโตและแข็งแรงได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด เราจึงไม่ได้หาดีไซเนอร์ที่เก่งที่สุด แต่เราต้องการหาแบรนด์ที่มีทั้งงานดีไซน์และมีแผนการทำธุรกิจไปควบคู่กัน ซึ่งทุกแบรนด์ที่เข้ามาในโครงการจะได้รับความรู้จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ พร้อมกันนี้รางวัลที่ได้รับจะช่วยพัฒนาและต่อยอดในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งอีกด้วย”
ตลอดโครงการเหล่าดีไซเนอร์ต้องผ่านการแข่งขันในโจทย์ต่างๆ ทั้งด้านการออกแบบ การตลาด รวมไปถึงการทำแฟชั่นโชว์ ทั้งยังได้รับความรู้จากกิจกรรม “Fashion Business Workshop” ซึ่งรวบรวมบุคลากรในวงการแฟชั่นมาให้ความรู้ด้านการวางแผนธุรกิจ การตลาด และการบริหารการเงินอย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของนิตยสารโว้กที่ไปทำความรู้จักกับแบรนด์ถึงสตูดิโอของผู้เข้าแข่งขัน และอัพเดทกิจกรรมต่างๆ ผ่าน Vogue Who’s on Next, The Vogue Fashion Fund ซึ่งออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทาง LINE TV
สำหรับผู้รับรางวัลชนะเลิศที่คว้าเงินรางวัล 1 ล้านบาทได้แก่ Forrest (ฟอเรสท์) โดย จุฑามาศ ภัคกิตติรัฐ ผู้สร้างสรรค์ผลงานแบรนด์นาฬิกาที่ดีไซน์ด้วยการนำวัสดุจากธรรมชาติเข้าไปอยู่ในงานออกแบบ ซึ่งผลงานมีตั้งแต่นาฬิกาหน้าปัดมอสส์ ตัวเรือนนาฬิกาที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงการนำแผ่นหินและวัสดุธรรมชาติอื่นๆ มาทำเป็นกระเป๋าในสไตล์โมเดิร์น มินิมัล เป็นผลงานที่ได้สัมผัสวิถีจากธรรมชาติแท้จริง พร้อมสื่อสารตัวตนของแบรนด์ที่ชัดเจน จุฑามาศ ดีไซเนอร์แบรนด์ Forrest เผยถึงเหตุผลที่ทำให้ได้รับรางวัลชนะเลิศว่า “การที่เราได้พัฒนาทั้งธุรกิจ และดีไซน์ควบคู่กันไป โดยยังคงความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งคอนเซ็ปต์คือการนำวัสดุจากธรรมชาติทุกชนิดที่ชื่นชอบ และเป็นวัสดุจริง มาสร้างสรรค์เป็นนาฬิกา และต่อยอดเป็นกระเป๋า ซึ่งทำให้คณะกรรมการคงเห็นถึงความตั้งใจ และสามารถพัฒนาไปสู่ระดับโลกได้ โครงการนี้ทำให้เราสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแผนธุรกิจ เรื่องดีไซน์ และการได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จะทำให้แบรนด์ Forrest ไปได้อีกไกล”
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศมี 2 แบรนด์ ได้แก่ Takara Wong (ทาการะ วอง) แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์สตรีทแวร์ที่ออกแบบโดย ฐกร วรรณวงษ์ โดยเกิดจากแนวคิด “การลองผิดลองถูก” Takara Wong เชื่อว่าความไม่สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างแท้จริง และนั่นคือเหตุผลที่แบรนด์ได้ให้ความสำคัญกับผู้ที่อยู่อีกมุมของสังคม และจิตวิญญาณอันเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม และดนตรีในแบบต่างๆ
และแบรนด์ Leisure Projects (เลเชอร์ โปรเจ็กต์ส) ออกแบบโดย ณัฐพล กนกวลีวงศ์ เสื้อผ้าที่มีความเป็น เลเชอร์ แคชชวล คือ มีความสนุกสนาน ผ่อนคลายและเป็นกันเองเหมาะสำหรับผู้ชายรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นลายปัก หรือลายพิมพ์ที่นำมาผสมผสานอย่างทันสมัยและดูน่าสนใจ และในปีนี้ได้มีรางวัลพิเศษคือ BEST IMPROVEMENT AWARD มอบให้กับแบรนด์ Everyday Apparels (เอวี่เดย์ แอพพาเรล) ออกแบบโดย ชนาภัทร กฤติยานนท์ ซึ่งเป็นรางวัลที่เหล่าคณะกรรมการได้เล็งเห็นว่า แบรนด์มีความตั้งใจรวมไปถึงมีพัฒนาการมากที่สุดใน ซึ่งแบรนด์ได้แสดงศักยภาพในด้านต่างๆได้ดีทั้งด้านดีไซน์ ธุรกิจ ซึ่งมีความพร้อมที่จะไปต่อได้ดีในวงการแฟชั่นไทย
ร่วมชมบรรยากาศการประกาศผลรางวัลผู้ชนะเลิศจากโครงการ “VOGUE Who’s on Next, The Vogue Fashion Fund 2017” ได้ที่ www.vogue.co.th และ LINE TV หรือ #voguewhosonnext2017