DIESEL คอลเลคชันฤดูใบไม้ผลิ 2020 พร้อมทัศนคติแบบ Work hard - but play harder

คอลเลคชันฤดูใบไม้ผลิ 2020 จาก Diesel มาพร้อมทัศนคติแบบ Work hard - but play harder ซึ่งเตรียมปล่อยออกเป็น 2 ดรอป โดยแรกนั้น Diesel นำเสนองานเวิร์คแวร์ที่เคยสร้างสรรค์ไว้ตั้งแต่ยุค 90 (ซึ่งผลงานในอดีตของ Diesel ใน 90 นั้นถือว่าเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของคอลเลคชันฤดูใบไม้ผลิปีนี้) ทว่าถูกนำมาอัพเดทใหม่ให้น่าสนใจขึ้น ส่วนดรอปที่ 2 เป็นการก้าวจากการสร้างสรรค์ยูนิฟอร์มยุคโมเดิร์นสู่งานกราฟิกอันเดอร์กราวด์ กับเสื้อผ้าที่โดดเด่นในรายละเอียดของการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสีหรือการทำลายพรางทั่วทั้งตัว และอีกมากมายหลายแบบ

สิ่งแรกที่โดดเด่นที่สุดในเสื้อผ้าคอลเลคชันนี้คือเรื่องของประโยชน์ใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการติดแถบสีส้มบนแขนเสื้อโค้ท เรื่อยไปจนถึงป้ายสีตัดกันที่ล้อไปกับรายละเอียดของเสื้อแจ็คเก็ตหนัง อีกหนึ่งคีย์ลุคคือการจัดวางเลเยอร์ทับซ้อนกัน รวมถึงรายละเอียดของงานเมทัลลิกที่สะท้อนเอกลักษณ์ของอุปกรณ์ช่างไม้ ส่วนลายพรางในคอลเลคชันมาในสีโทนเข้มเป็นส่วนใหญ่ เสื้อมีฮู้ดสีดำและแจ็คเก็ต MA-1 สีเขียวมะกอกเมทัลลิกคือไฮไลต์ เนื้อผ้าสไตล์วินเทจถูกนำกลับมาใช้ใหม่ด้วยเทคนิคแบบโมเดิร์น ส่วนชิ้นเด่นชิ้นอื่น ๆ ยังมีทั้งแจ็คเก็ตบอมเบอร์มีฮู้ดและสูทโมโตครอสที่ให้รายละเอียดของสไตล์ทหารและสไตล์สปอร์ตผสมกัน การนำเสนอเสื้อผ้าใช้วิธีการเดียวกันทั้งในส่วนของเสื้อผ้าบุรุษและเสื้อผ้าสตรี โดยเน้นเรื่องของประโยชน์ใช้สอย ทั้งบนเสื้อ กระโปรง และกางเกง ที่หยิบส่วนประกอบนี้มาจากงานเวิร์คแวร์ (โดยเฉพาะกระโปรงและกางเกงที่มาพร้อมกระเป๋าคาดเอวปรับขนาดได้และกระเป๋าด้านข้างสไตล์คาร์โก)

 

สำหรับดรอปแรกของคอลเลคชันฤดูใบไม้ผลิยังมีชิ้นที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Second Life” ซึ่งหมายถึงเสื้อผ้าที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่จากชิ้นที่เคยถูกใช้มาก่อนและนำกลับมาเย็บติดเข้าด้วยกัน อาทิ กระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตถูกนำมาเย็บอยู่บนแจ็คเก็ตอีกตัวจนทำให้เกิดแจ็คเก็ตบอมเบอร์ในสไตล์ใหม่ คอนเซ็ปต์ “Second Life” นี้โฟกัสไปที่การเปลี่ยนรูปแบบ โดยเสื้อผ้าหลายชิ้นที่สร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์นี้ยังสามารถสวมใส่ได้หลายรูปแบบ เช่น การมีรายละเอียดของแขนเสื้อหรือขากางเกงที่สามารถถอดออกได้ โดยสำหรับคุณสุภาพสตรีมีเสื้อทีเชิ้ต แจ็คเก็ตบอมเบอร์ และกางเกงขายาว อย่างละตัว ส่วนของคุณสุภาพบุรุษมีเสื้อสเวตเตอร์ แจ็คเก็ตบอมเบอร์ และทีเชิ้ตอย่างละตัว

 

สำหรับดรอปที่ 2 จะโฟกัสไปที่รายละเอียดอันโดดเด่นในสไตล์ของ Diesel เช่น การสร้างรายละเอียดใหม่ ๆ ให้กับกางเกงยีนส์เอวสูงด้วยการแมตช์กับเสื้อโอเวอร์ไซส์ ลายพิมพ์ต่าง ๆ เน้นการสร้างเอฟเฟกต์ที่สะดุดสายตา อาทิ ลายผ้าย้อมสี และลายพรางทั่วทั้งตัว (ซึ่งพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจากดรอปแรก) เรื่อยไปจนถึงสีไซคีเดอลิกและสีขาวดำ

นอกจากนี้ยังมีลายพิมพ์กราฟิกสไตล์ร็อคแอนด์โรลล์ ที่ถูกนำเสนออกมาในแบบงานพิมพ์เลเซอร์บนกางเกงยีนส์ ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงการสร้างลายพิมพ์นี้ด้วยการวาดมือ เผยให้เห็นเอกลักษณ์ของการทำงานดีไอวายได้อย่างน่าสนใจในอีกรูปแบบหนึ่ง

สำหรับงานเดนิม สีสันคือหัวใจสำคัญสำหรับฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะบน JoggJeans ซึ่งเป็นคอลเลคชันหลักทั้งของสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ยังมีรายละเอียดของการสร้างมิติและเลเยอร์ใหม่ ๆ ผ่านการทำผ้ารุ่ย และสไตล์ที่ดูเหมือนการซ่อมแซมจนเผยด้านในของผ้าที่ดูแตกต่างออกมาให้เห็น มีการผสมผสานรายละเอียดต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเดนิมสีขาวกับซับในสีชมพู หรือเดนิมสีน้ำเงินกับซับในสีแดง หรือเดนิมสีดำกับซับในสีเหลือง (และอีกมากมาย) ในส่วนของเสื้อผ้าสตรีมีการออกแบบที่เน้นเรื่องการฟอกซีดแบบวินเทจ นอกจากนี้ยังมีงานเดนิมเวิร์คแวร์ที่มีทั้งกระโปรงสั้น และกระโปรงยาว รวมถึงกางเกงขาสั้นและกางเกงขายาว โดยในบางตัวมีการประดับด้วยมุก นอกจากนี้ ในคอลเลคชันยังมีทางเลือกของเสื้อผ้า “Superior” ที่มีการมิกซ์สีสันและเทกซ์เจอร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน (เช่น ลายพิมพ์สีดำหรือสีนีออนบนพื้นขาว หรือสีขาวบนพื้นดำ) บนเสื้อผ้าหลากหลายชิ้น ด้วยจุดมุ่งหมายในการทดลองสร้างสรรค์งานเดนิมที่ล้ำหน้ายิ่งไปกว่าที่เคยสำหรับ Diesel ในฤดูกาลนี้ และสุดท้าย คอลเลคชันเดนิมสำหรับฤดูใบไม้ผลินี้ยังมีส่วนที่ใช้เทคนิคการผลิตที่เรียกว่า “Divine Comedy” ซึ่งก็คืองานเดนิมที่มาพร้อมลายพิมพ์ที่ทำด้วยเลเซอร์และใช้เพียง 2 สีเท่านั้นเพื่อให้เกิดเอกลักษณ์ที่สะดุดตาเมื่อสวมใส่
 

 

แอคเซสซอรี่ในคอลเลคชันเน้นเรื่องของการใช้งานได้จริง อาทิ รองเท้าสนีกเกอร์ในหลากหลายสีสันและสามารถสวมใส่ได้ในทุกสภาพพื้น ส่วนกระเป๋าเน้นที่ความคล่องตัวในการใช้งานได้ทุกที่ โดยมีให้เลือกทั้งกระเป๋าใบเล็กและกระเป๋าคาดเอวที่โดดเด่นในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย