แม้ทุกวันนี้โลกจะรายล้อมไปด้วยสุภาพสตรียุคใหม่ผู้ซึ่งเป็นดั่งแรงบันดาลใจ เปี่ยมด้ว จินตนาการที่สร้างสรรค์ กล้าเผชิญหน้า ทั้งยังขึ้นแท่นเป็นบุคคลทรงอิทธิพลในหลากหลายแวดวง แต่อีกมุมหนึ่งพวกเธอกลับรักษาเสน่ห์แห่งอิสตรีในแบบฉบับของตนไว้อย่างเยี่ยมยอด นอกจากนี้ในแง่ความชื่นชอบต่องานฝีมือและทักษะที่หาตัวจับได้ยาก ก็อยู่ในลิสต์ความสนใจของคุณผู้หญิงเหล่านี้ไม่แพ้กัน ดังจะเห็นได้จากการที่พวกเธอแสวงหาชิ้นงานที่สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจและถ่ายทอดนิยามของผู้สวมใส่ได้อย่างชัดเจน กล่าวได้ว่านับแต่ยุคทศวรรษที่ 1960 เรื่อยมา นาฬิกาจิวเวลรี่จากเพียเจต์ก็ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองที่เคียงข้างสุภาพสตรีจนถึงปัจจุบัน
คอลเลคชั่น เพียเจต์ ไลม์ไลท์ กาล่า (Piaget’s Limelight Gala collection) เรือนเวลาไอคอนที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจมาจากโมเดลเลื่องชื่อในปี 1973 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวยังถือเป็นยุคเรืองรองของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้ ในการรวมตัวเพื่อพบปะและเฉลิมฉลองร่วมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเซเลบริตี้ ศิลปิน ลูกค้าคนสำคัญ เฟรนด์ของ แบรนด์ ไปจนถึงดาราชื่อดัง อาทิ Salvador Dali, Jackie Kennedy, Elizabeth Taylor, Andy Warhol, Cary Grant และ Sami Davis Jr. ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ยังคงสานต่อความเรืองรองนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น ดังที่ปรากฎให้เห็นบนพรมแดงในงานประกาศรางวัลระดับนานาชาตินับไม่ถ้วน กับประกายสง่างามของชิ้นงานจากเพียเจต์ที่สวมใส่โดยเหล่าซุปเปอร์สตาร์ เอลิสต์ระดับโลก
เกือบ 50 ปีที่ผ่านมา เพียเจต์ ไลม์ไลท์ กาล่า (Piaget Limelight Gala) ถูกยกให้เป็นไอคอนสำหรับสุภาพสตรีที่สะท้อนถึงความสง่างามและความเป็นอันหนึ่งอันเดียว ดังจะเห็นได้จากองค์ประกอบแต่ละชิ้นที่ต่างเติมเต็มกันอย่างสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็น เส้นสายอันเย้ายวน, ตัวเรือนที่โค้งเว้า ไปจนถึงดีไซน์ขาตัวเรือนแบบอสมมาตร สำหรับการตีความในยุคสมัยใหม่นี้ แบรนด์ยังคงคาแรคเตอร์ของขาและตัวเรือนไว้ครบถ้วน ทั้งยังผสานความงามจากอัญมณี หน้าปัดหินสี และสายรัดข้อมือทองที่แฝงงานแกะสลักที่ละเอียดอ่อนไว้อย่างบรรจง สำหรับปี 2020 เพียเจต์เตรียมเผยโฉมไลม์ไลท์ กาล่า เรือนล่าสุดอย่าง Piaget Limelight Gala Precious เพื่อเป็นเกียรติให้กับคอลเลคชั่นที่ถ่ายทอดปรัชญาและสืบทอดมรดกอันงดงามมากว่าครึ่งศตวรรษ ไม่ว่าจะเป็น ศาสตร์แห่งการทำทอง (The Art of Gold) , ศิลปะด้านการเล่นแสง (The Art of Light), ศาสตร์แห่งสีสัน (The Art of Colour) และ ศาสตร์แห่งกลไก (The Art of Movement)
ระยิบระยับยามต้องแสง คือเสน่ห์ของเรือนเวลาไลม์ไลท์ กาล่า รุ่นล่าสุดอย่าง Piaget Limelight Gala Precious ที่ยังมัดใจได้ตั้งแต่แรกเห็น รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่หลอมรวมศาสตร์และศิลป์ต่างๆไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็น สายรัดข้อมือทองที่แกะสลักอย่างวิจิตร หน้าปัดที่โอบล้อมด้วยเพชรและแซฟไฟร์โทนสีน้ำเงิน ฟ้า
โดยเพียเจต์ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เมซงที่เชี่ยวชาญในการคิดค้นเทคนิคเพื่อนำเสนอประกายงามของวัสดุล้ำค่าอย่าง “ทองคำ” ให้ดูเจิดจรัสมากที่สุด ดังลวดลายที่ปรากฏให้เห็นบนสายรัดข้อมือของคอลเลคชั่น ไลม์ไลท์ กาล่า ที่แบรนด์บ่มเพาะความเชี่ยวชาญมาตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1960 ก่อนมีชื่อเสียงมากขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งแรงบันดาลใจของแพทเทิร์นต่างๆ มักถ่ายทอดต้นแบบมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ขนนก คลื่น ผืนป่า ขนสัตว์ ทุ่งหญ้า เปลือกไม้ใบไม้ เกล็ดงู ตลอดจนความมหัศจรรย์อื่นๆ อีกมากมาย
โดยช่างทำทองมากฝีมือเหล่านี้หากเปรียบแล้วก็เหมือนดั่งช่างตัดเย็บ Haute-Couture ที่แต่ละขั้นตอนค่อยๆ รังสรรค์อย่างวิจิตรบรรจง ตั้งแต่นำทองคำมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ก่อนนำมาผ่านกระบวนการบัดกรีจนได้สายนาฬิกาที่อ่อนช้อยราวกับเส้นไหม
นอกจากนี้แบรนด์ยังหยิบเอาศาสตร์แห่งการทำทองด้วยมือแบบดั้งเดิมอย่าง Palace Décor มาผสานไว้บนสายนาฬิกาได้อย่างลงตัว โดยการแกะสลักต่อหนึ่งชิ้นใช้เวลานานหลายชั่วโมง ทั้งยังต้องอาศัยทักษะจากช่างฝีมือที่ผ่านการฝึกฝนอย่างชำนาญจาก “Workshop of Extraordinary Creations” ซึ่งปัจจุบันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้
ในขณะที่หน้าปัดของ Piaget Limelight Gala Precious ทำจากไวท์โกลด์ มาพร้อมลวดลายแกะสลักที่รังสรรค์โดยช่างศิลป์คนเดียวกันกับสายรัดข้อมือ เพื่อให้ได้แพทเทิร์นที่ตรงกันราวกับจับวาง ต่อด้วยขั้นตอนการลงยาแบบกรองด์เฟอ (Grand Feu) ในเฉดสีน้ำเงิน จากนั้นนำไปเผาในเตาด้วยความร้อนสูงที่อุณหภูมิกว่า 800 องศาเซลเซียส จนได้สีเรียบเนียนเสมอกัน ปิดท้ายด้วยประกายงามจากอัญมณีคุณภาพสูงที่เมซงคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ก่อนนำมาประดับบนขอบและขาตัวเรือนด้วยเทคนิค Serti Descendu ในสไตล์แบบโอเพ่นเวิร์ค เผยให้เห็นความงามของเพชรเม็ดใหญ่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคใหม่ที่ฉีกรูปแบบการฝังเพชรลงไปในเนื้อทองที่เคยใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน
เรือนเวลา Piaget Limelight Gala Precious มาในตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ทั้งยังเป็นเวอร์ชั่นที่ระบุหมายเลยเครื่องไว้บริเวณฝาหลังอีกด้วย (Numbered edition)
สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค
โดย เอส ที ไดเมนชั่น โทร. 02-610-9678