Gushcloud เปิดตัวในไทยด้วยงาน Influence Asia 2017 พร้อมเป็นผู้นำในโลกดิจิทัล และการตลาดอินฟลูเอนเซอร์

กัชคลาวด์ (Gushcloud) บริษัทชั้นนำด้านสื่อสารมวลชน และการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก้าวเข้าสู่ตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก พร้อมขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านการตลาดอินฟลูเอนเซอร์อย่างภาคภูมิ โดยบริษัทจะขับเคลื่อนให้เกิดสมาชิกของกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะสามารถยกระดับเทรนด์ของแบรนด์ ในการใช้การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ได้มากยิ่งขึ้นในอนาคตเช่นกัน 

“จากแผนการต่างๆ ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ของการตลาดโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัล ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะใช้เงินมูลค่าถึง 327 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปกับเวทีสื่อโฆษณาดิจิทัลในปี 2018 ขณะที่เปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งการตลาด ในกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 29% ส่วนเทรนด์ทั่วโลกนั้นบ่งชี้ถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ประเทศไทยมีตลาดอินฟลูเอนเซอร์ขนาดใหญ่พอ ที่จะสามารถสร้างกลุ่มผู้ติดตามได้จำนวนมากมายมหาศาล สถิติเหล่านั้นยังแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคระดับเศรษฐีชาวไทย ยังได้รับข้อมูลมาจากคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนของพวกเขา นี่เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความต้องการอินฟลูเอนเซอร์ (Influencers) หรือนักสร้างสรรค์เนื้อหา (Content Creators) ขึ้น เพื่อให้ยังคงรักษาการสร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อความบันเทิง และให้ความรู้แก่ผู้ชม เมื่อตลาดมีจำนวนของกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ และนักสร้างสรรค์เนื้อหาที่เติบโตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทต่างๆ จึงเริ่มหันมาทำการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ เหมือนกับที่ กัชคลาวด์ ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ เพื่อช่วยสร้างระบบความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงแบรนด์และนักโฆษณากับกลุ่มคนที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เหล่านี้ ตลอดหกปีในสาขาการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ กับพันธมิตรลูกค้ากว่า 1,000 ราย เรามั่นใจว่าจะสามารถรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำ ในอุตสาหกรรมการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ บนสื่อดิจิทัลในประเทศไทยไว้ได้ เราเห็นถึงศักยภาพของตลาดนี้ และพร้อมที่จะลงทุนอย่างทุ่มเท เพื่อสร้างระบบความสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ให้เกิดขึ้นอย่างเข้มแข็งที่นี่” คุณอัลเธีย ลิม (Ms Althea Lim) กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง กัชคลาวด์ กรุ๊ป เผย

 

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นนิยมอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา อันเป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียในประเทศไทย โดยแบรนด์ต่างๆ ยังได้ย้ายนโนบายและกลยุทธ์ของพวกเขามาสู่การตลาดออนไลน์ ที่รวมไปถึงการสร้างสรรค์เนื้อหา และการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ ผ่านตัวแทนกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล และเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ผู้ซึ่งมียอดผู้ติดตามจำนวนมาก เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไปสู่กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ยังคงได้ส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สื่อประเภทอื่นๆ และกลยุทธ์การตลาดอื่นๆ นั้นยังคงแสดงสัญญาณที่จะลดลงต่อไป เทรนด์นี้ยังจับคู่กับการให้การยอมรับ ที่กว้างขวางมากขึ้นของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ทรงอิทธิพล ที่กระตุ้นให้องค์กรต่างๆ ทั้งหน่วยงานของรัฐบาล และเอกชนหันมาลงทุนมากขึ้นในสื่อออนไลน์ และกระตุ้นให้เกิดการเติบโตของบริษัทเอเจนซี่ดิจิทัลและการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ตามมา

 

โซเชียล อิงค์ (Zocial inc) รายงานว่า ในปี 2016 ท่ามกลางกลุ่มผู้ใช้อินสตาแกรม 300 ล้านรายทั่วโลก มีผู้ใช้จำนวนมากถึง 7.8 ล้านรายจากประเทศไทย และนี่เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากจำนวนเพียง 1.7 ล้านรายในปี 2014  “เพื่อเข้าสู่ตลาดเมืองไทย เราวางแผนที่จะใช้ทั้งประสบการณ์ และความรู้ความสามารถอันลึกซึ้งของเราเกี่ยวกับการตลาดอินฟลูเอนเซอร์อย่างเต็มที่ กับแบรนด์ต่างๆ ที่เราได้ร่วมงานด้วย กัชคลาวด์ ยังจะนำมาซึ่งเครือข่ายของอินฟลูเอนเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดทั่วเอเชีย เข้ามาช่วยกลุ่มลูกค้าชาวไทยในการแข่งขันกับตลาดทั้งในภูมิภาค และระดับโลก เรายังจะนำเทคโนโลยีเฉพาะของเรามาสู่ประเทศไทย เพื่อช่วยให้แบรนด์ และเอเจนซี่ต่างๆ สร้างการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้นได้” คุณอิทธิ ยศสุนทร กรรมการผู้จัดการ กัชคลาวด์ (ประเทศไทย) เผย

 

“มากไปกว่านั้น เราจะรวมกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของประเทศไทยเข้าสู่งาน อินฟลูเอนซ์ เอเชีย 2017 (Influence Asia 2017) เพื่อให้เราสามารถทำงานร่วมกับแบรนด์ และเอเจนซี่ต่างๆ ในการเฉลิมฉลองความพยายามและความสำเร็จของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และนักสร้างสรรค์เนื้อหาในประเทศไทย งานครั้งนี้ยังนับเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีย์กิจกรรม และงานต่างๆ ทั้งหมดที่จะตามมา เพื่อมอบความยั่งยืน และเพิ่มการยอมรับของอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตนี้ในประเทศไทย” คุณอิทธิ กล่าวเสริม

กัชคลาวด์ ยังวางแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรอันหลากหลายภายในอุตสาหกรรมบันเทิงและโฆษณาในประเทศไทย บริษัทกำลังมองหาการผนึกความสัมพันธ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น และร่วมลงทุนไปกับบริษัทชั้นนำของไทย เพื่อให้ประเทศสามารถเติบโตและเพิ่มมูลค่าในตลาดและอุตสาหกรรมนี้มากยิ่งขึ้นต่อไป